ใกล้สิ้นปี 2565 แล้ว หลายๆคนกำลังมองหาสถานที่เคาดาวน์กันอยู่ แต่วันนี้แอดมินมีกิจกรรมข้ามปีเสริมสิริมงคลมากฝากค่ะ นั่นคือการสวดมนต์ข้ามปีนั้นเอง ซึ่งสามารถสวดที่วัดหรือที่บ้านก็ได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆที่สามารถทำได้ทั้งครอบครัวเลยค่ะ การสวดมนต์ข้ามปีเป็นการต้อนรับสิ่งดีๆเข้ามา เสริมสิริมงคล ให้ชีวิตรุ่งเรือง หากใครสะดวกสวดมนที่บ้านสามารถสวดได้ตามบทสวดที่แอดมินนำมาฝากเลยนะคะ

บทสวดมนต์ข้ามปี

บทที่ 2 บทกราบพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

บทที่ 3 นมัสการพระพุทธเจ้า

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3จบ)

บทที่ 4 สมาทานศีล 5

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

บทที่ 5 บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย (ให้อานิสงส์ในทุกๆ เรื่อง)

บทพระพุทธคุณ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชา จะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถา
เทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ

บทพระธรรมคุณ
สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม
สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก
โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ

บทพระสังฆคุณ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ

บทที่ 6 บทมงคลสูตร
(ป้องกันอันตราย เพิ่มสิริมงคลรับปีใหม่)

เอวัมเม สุตัง ฯ
เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน
อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา
อะภิกกันตายะ รัตติยา อภิกกันตะวัณณา
เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตะวา
เยนะ ภะคะวา เตนุปะสังกะมิ
อุปะสังกะมิตะวา ภะคะวันตัง อภิวาเทตะวา
เอกะมันตัง อัฏฐาสิ เอกะมันตัง ฐิตา โข สา เทวะตา
ภะคะวันตัง คาถายะ อัชฌะภาสิ
พะหู เทวา มะนุสสา จะ มัคะลานิ อะจินตะยุง
อากังขะมานา โสตถานัง พรูหิ มังคะละมุตตะมัง
อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา
ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา
อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ วินะโย จะ สุสิกขิโต
สุภาสิตา จะ ยา วาจา เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
มาตาปิตุอุปัฏฐานัง ปุตตะทารัสสะ สังคะโห
อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ ญาตะกานัญจะ สังคะโห
อะนะวัชชานิ กัมมานิ เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
อาระตี วิระตี ปาปา มัชชะปานา จะ สัญญะโม
อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
คาระโว จะ นิวาโต จะ สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา
กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
ขันตี จะ โสวะจัสสะตา สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง
กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง
นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ
อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
เอตาทิสานิ กัตวานะ สัพพัตถะมะปะราชิตา
สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติฯ

บทที่ 7 บทโพชฌังคปริตร
(หายจากโรคภัย สุขภาพดีรับปีใหม่)

โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
วิริยัมปีติปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
สะมาธุเปกขะโพชฌังคา สัตเต เต สัพพะทัสสินา
มุนินา สัมมะทักขาตา ภาวิตกา พะหุลีกะตา
สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต สัพพะทาฯ
เอกัสะมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง
คิลาเน ทุกขิเต ทิสะวา โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
เต จะ ตัง อะภินันทิตะวา โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ
เอะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต
จุนทัตเถเรนะ ตัญเญนะ ภะนาเปตะวานะ สาทะรัง
สัมโมทิตะวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหนตุ สัพพะทาฯ
ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ

บทที่ 8 บทพุทธชัยมงคลคาถา
ชนะอุปสรรคทั้งปวง พบความสำเร็จในปีใหม่)

พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
กัตตะวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมังวิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญฯ

บทที่ 9 บทแผ่เมตตา

แผ่เมตตาให้แก่ตัวเราเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ (ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข)
อะหัง นิททุกโข โหมิ (ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์)
อะหัง อะเวโร โหมิ (ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร)
อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ (ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง)
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ (ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด)

บทแผ่เมตตาทั่วไป
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวราโหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัชฌาโหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆาโหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เถิดฯ

กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตา ปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข

อิทัง เม คุรูปัชฌายาจะริยานังโหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจะริยา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ เปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ เวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ สัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข 

สุขสันต์วันปีใหม่ 2566 นะคะ

ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ facebook

เคล็ดลับสายมู เพิ่มความปัง ความเฮงแบบทวีคูณ หากใครเป็นสายมู มีความศรัทธาองค์พระพิฆเนศ หรือองค์เทพอื่นๆ อยากบูชาแล้วปัง บูชาแล้วรุ่ง หรือบูชาอยู่แล้วอยากให้ปัง ให้เฮงเพิ่มขึ้นไปอีก 10 เท่า 100 เท่า ลาดูเงินลานมีเคล็ดลับมาฝากค่ะ รับรองว่าทำตามแล้วศรัทธาด้วยหัวใจปังแน่นอน

3 เคล็ดลับ บูชาพระพิฆเนศเพิ่มความปัง ความเฮงทวีคูณ

1.เพิ่มพลังบุญ การเพิ่มพลังบุญจะช่วยเสริมรากฐานของความปัง ความเฮง ความมั่นคง ให้กับตัวเราเอง ไม่ว่าเราจะทำอะไรหากมีพลังบุญที่แข็งแกร่งก็จะสามารถผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ด้วยดี การเพิ่ทพลังบุญสามารถทำได้ง่ายๆ เริ่มต้นจากการสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำทาน บุญต่างๆที่เราสะสมในแต่ละวันจะเป็นบารมีที่ต่อเนื่อง ทำให้ตัวเรา ดวงของเราเพิ่มขึ้น ความโชคดีก็จะมาอยู่ที่ตัวเรา

2.เพิ่มพลังงานในร่างกาย คือการเพิ่มพลังบวก คิดดี ทำดี เจตนาดี จะส่งผลให้จิตใจของเราดี ลบล้างพลังงานลบ โดยการให้กำลังใจตัวเองบ่อยๆ ฟังแต่เรื่องดีๆ พาตัวเองไปอยู่กับธรรมชาติหรือสถานที่ที่ให้พลังงานบวกกับตัวเอง เมื่อตัวเรามีพลังงานบวกแล้วการทำอะไรก็จะประสบความสำเร็จ

3.การรักษาระดับพลังงานให้คงที่ ที่สำคัญเราต้องสามารถควบคุม รักษาพลังงาน ความคิดบวกในตัวเองให้คงที่ เป็นข้อที่หลายคนทำได้ยาก เพราะหลายคนเมื่อมีความปังแล้ว คิดว่าแค่นี้พอแล้วก็จะหยุดรับพลังงานบวก และปล่อยให้พลังงานลบเข้ามาแทนที่ หมั่นทำบุญ มีสติ ใช้ความคิดในการทำเรื่องใหม่ๆ อยู่กับสภาพแวดล้อมที่ดี แค่นี้ก็จะทำให้เรารักษาพลังงานบวกได้แล้ว

ทั้งนี้การบูชาองค์พ่อพระพิฆเนศให้ประสบความสำเร็จ ข้อสำคัญเลยตัวเราเองต้องมีความสุขทุกครั้งที่ได้บูชา ไม่เบียดเบียนตัวเอง ไม่รู้สึกน้อยใจเมื่อไม่ได้รับพร ไม่ตั้งคำถามว่าเราทำไปทำไม ทำแล้วไม่เห็นได้รับพร ไม่ประสบความสำเร็จสักที พลังงานลบเหล่านี้จะทำให้เราไม่พัฒนา

หลังจากนี้เริ่มใหม่กันนะคะ ตั้งสติ สมาธิ ศรัทธาบูชาองค์พ่อพระพิฆเนศด้วยหัวใจ มีความสุขในการคัดสรรสิ่งของที่องค์พ่อชอบมาถวาย เลือกสิ่งที่ดีที่สุดมากกว่าเลือกให้ตนเอง องค์พ่อพระพิฆเนศเป็นองค์เทพแห่งความเมตตา หากเรามอบสิ่งดีๆให้กับท่าน มีหรือที่ท่านจะไม่ประทานพรให้กับเรา

การขอพรจากองค์พ่อ ไม่ใช่เพื่อให้พ้นทุกข์ไปเฉย ๆ แต่เพื่อให้เราได้ ‘เรียนรู้ เติบโต และเปลี่ยนแปลง’

หากคุณกำลังเผชิญกับเรื่องยากที่สุดในชีวิต บางทีเป็นปัญหาที่ไม่เคยเจอมาก่อน บางทีเป็นบทเรียนที่ทำให้เราเจ็บปวดและทุกข์ใจ

แทนที่จะหนีหรือโทษสิ่งรอบข้าง… นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะ ตั้งสติ และเรียนรู้จากเหตุการณ์นั้น

3 ขั้นตอนในการขอพรเพื่อให้ผ่านเรื่องยากของชีวิต

     1. หยุดโทษคนอื่น หยุดโทษสิ่งแวดล้อม  เพราะทุกเหตุการณ์ล้วนมีบทเรียนที่ซ่อนอยู่

     2. พิจารณากลับมาที่ตัวเอง ยอมรับความผิดพลาด เห็นจุดบกพร่องของตัวเองให้ชัด

    3. ตั้งใจแก้ไขและก้าวต่อไป เมื่อเห็นแล้วว่าพลาดตรงไหน ให้ประกาศต่อองค์พ่อว่า…

“ลูกมองเห็นข้อผิดพลาดแล้ว ลูกสำนึกแล้วว่าเป็นเพราะเหตุใด
เพราะลูกไม่รอบคอบ เพราะโลภ เพราะหูเบาไม่รอบคอบ
เพราะไม่รักตัวเองมากพอ เพราะไม่ขยันพัฒนาตัวเอง หรือเพราะอะไร
ลูกรู้แล้วว่าเหตุการณ์ที่กำลังเผชฺิญอยู่นี้สอนอะไรให้ลูก
ต่อไปนี้ลูกจะปรับปรุงแก้ไขดังนี้ 1..2…3…4…5…”

และให้บอกองค์พ่อด้วยหัวใจว่า

ลูกจะตั้งใจปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ลูกจะรักษาศีลห้า ไม่ให้ขาด เพื่อเป็นการถวายบุญ

ลูกจะบูชาองค์พ่อด้วย ขนมลาดูโมทกะ อาหารทรงโปรด
เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความจริงใจและความศรัทธา

สุดท้ายนี้… เรื่องยากในชีวิต ไม่ใช่บทลงโทษ แต่คือ พรที่ปลอมตัวมาในรูปแบบของบทเรียน

สิ่งที่ขอพรไว้ จะไม่ใช่แค่ “ผ่านเรื่องร้าย” แต่จะกลายเป็น “การเริ่มต้นใหม่ที่มั่งคั่งและงดงามกว่าเดิม”

รีวิวความศรัทธาขนมลาดูเงินล้าน

 

สนใจสั่งซื้อขนมลาดูเงินล้านสั่งได้ที่

คายะตรีมนตรา หมายถึง คัมภีร์สามภพที่สามารถคลายมนต์แห่งคำสาป
ของพระแม่คายตรีมนตราเป็นการอวตารของพระแม่สุรัสวตี

พระแม่สุรัสวตี หรือ พระแม่กายาตรี คือพระแม่แห่งพระเวทย์ มีหลายพระนามได้แก่ บรามี หรือ ภาคแห่งพระพรหมที่เป็นหญิง หรือ บาราตี,มาราตี มหาวิทยา วรรค มหาวาณี อารยา ดาเมชวารี

ส่วนอีกตำราหนึ่งกล่าวว่า พระแม่คายตรีมนตรา เทพีแห่งมนต์ตราเจ้าแม่เเห่งการแก้อาถรรพ์ ถอนคำสาปเป็นการรวมตัวกันของ พระแม่ทั้ง 5 องค์ ได้แก่ 1.พระแม่ปราวตี 2.พระแม่ลักษมี 3.พระแม่สรัสสวดี 4. พระแม่มีนาคชีเทวี 5 .พระแม่คงคาเทวี(บางตำนานบอกว่าพระแม่กาลี)

ทำไมต้องสวดมันตรา?

หลายคนที่บูชาพระพิฆเนศอยู่ อาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้องสวดมันตรา แล้วมันตราคืออะไร ทำไมต้องสวดด้วยนะ มันตรา คือ บทสวดที่เชื่อมพลังงานของเราเข้าถึงองค์พ่อพระพิฆเนศ บางครั้งเราสวดมนต์ท่องบทบูชาพระพิฆเนศไป 3 จบ 5 จบ 9 จบบ้าง แต่เรารู้สึกได้ว่าเราไม่มีสติ ไม่มีสมาธิที่จะเข้าถึงองคืพ่อ หากได้รู้จักมันตราแล้ว ต้องบอกเลยว่ามันตราเป็นพลังงาน เป็นบทสวดที่ไพเราะมาก สามารถเชื่อมพลังงานของเราเข้าสู่องค์พ่อพระพิฆเนศแล้วทำให้ร่างกายของเรา มีความรู้สึกว่ากลับไปยังธรรมชาติ กลับไปยังธรรมะ จิตเราจะเบาสบาย มีสมาธิขึ้นมา ความกังวล ความเครียดต่างๆ มันก็จะหายไปหมดเลย เมื่อจิตเราบริสุทธิ์ เราก็จะเข้าถึงองค์พ่อได้ เมื่อเราเข้าถึงพระองค์ได้แล้ว เวลาเราขอพรก็จะสำเร็จได้ง่ายดาย เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดเคล็ดลับที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่เคยทำ เมื่อความคิดเราดี สติเราปัง ทำให้เรามีปัญญาในการใช้ชีวิต พรที่เราขอองค์พระพิฆเนศก็ปังด้วย
สรุปเลย มันตรา คือ พลังงานดี เลยนำสิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิต

บทสวดมันตราบูชาครู

โอม ศรี คะณะปะตะเย นะมะฮา
โอม กุรุเว นะมะฮา
โอม ศิวาเณศา ยะนะมะฮา
โอม สถานะเทวะตา ยะนะมะฮา
โอม สะระวะเทวะตา ยะนะมะฮา
อวิฆนะมัส – ขออย่าได้มีอุปสรรคอันใดเลย
โอม คัม คะณะปะตะเย นะมะฮา

คายะตรีมันตรา

โอม..ภูร ภูวัช สวะหะ ตัต สะวิตุณ วะเรณ ยัม ภะระโกเด วัสยะทีมาฮี ทีโยโย นัช ประโจดะยาต
( 3 จบ )

คเณศคายะตรีมันตรา

โอม ศรี คเณศา..ยะนะมะฮา..
โอม..เอก กะทันตา ยะ วิทมาเหวัก กระตุนดา ยะทีมะฮี ตันโน ดันติ ประโจดะยาต ( 3 จบ )

ศิวะคายะตรีมันตรา

โอม นะมัชศิวา..ยา….
โอม มหาเดวา ยะวิทมาเห รุทระ มูระเต ยะทีมาฮี ตันโน ศิวะ ประโจดะยาต ( 3 จบ )

ทุรคาคายะตรีมันตรา

โอม..ดุม คุระกาไยย..นะมะฮา
โอม..กาตยายะน่า ยะวิทมาเห กันยากุมารี ยะทีมะฮี ต้นโน คุระกิ ประโจดะยาต ( 3 จบ )

กาลีคายะตรีมันตรา

โอม กริง กาลี กาเย นะมะฮา
โอม มหากาลี ยะวิทมาเห สมัชชา นะวาซินไนย ยะทิมมะฮิ ตันโน กาลี ประโจดะยาต ( 3 จบ )

นารายณ์คายะตรีมันตรา

โอม นะโม นารายะณา ยะนะมะฮา
โอม นารายะณา ยะวิทมาเห วาสุเดวา ยะทีมะฮี ตันโน วิษณุ ประโจดะยาต ( 3 จบ )

ลักษมีคายะตรีมันตรา

โอม ศรี มหาลักษมี นะมะฮา
โอม มหาลักษมี จะวิทมาเฮ วิษณุปัตไนย ยะทีมะฮี ตันโน ลั่กษมิ ประโจดะยาต ( 3 จบ )

พรัหมาคายะตรีมันตรา

โอม อะฮัม พรัหมา อัสมิ
โอม เวดาชมะนา ยะวิทมาเห หิรัณยะกับปา ยะทีมาฮี ตันโน พรัหมา ประโจดะยาต ( 3 จบ )

สรัสวตีคายะตรีมันตรา

โอม สรัสวัตไตยะ วิทมาเห พรัหมาบุตริ
โอม อีม สะรัสวัสไตย ยะ นะมะฮา ไยยะ ทีมะฮี ตันโน เดฟวีย์ ประโจดะยาต ( 3 จบ )

ตรีมูรติคายะตรีมันตรา

โอม ทัตตะเตรยา ยะนะมะฮา
โอม ทัตตะเตร..ยะวิทมาเห อะตรีปุตรา ยะทีมะฮี ตันโน ดัตตรา ประโจดะยาต ( 3 จบ )

มหามนต์(มหาเสน่ห์)

ฮาเรกฤษณะ ฮาเรกฤษณะ
กฤษณะ กฤษณะ ฮาเร ฮาเร
ฮาเรรามะ ฮาเรรามะ
รามะ รามะ ฮาเร ฮาเร

บุดดา(พุทธะ)คายะตรีมันตรา

โอม โชมาปุตตา ยะวิทมาเห มหาปรัชญา ยะทีมะฮี ตันโน พุทธะ ประโจดะยาต ( 3 จบ )

บทสวดบูชาพระศิวะ

การะปูระเคารัม กรุณาวะตารัม
สัมสาระสารัม ภูชะเคน ทระหารัม
สะทาวะสันตัม ฤทะยะระวินเท
ภะวัมภะวาณิ สะหิตัม นะมามิ

โอม ศานติ ศานติ ศานติ โอม ขอความสุข สงบ สันติ จงมีแด่ ทุกรูปทุกนาม
ขอองค์พระพิฆเนศประทานพร

ใกล้ปีใหม่แล้ว รักไม่รุ่ง เงินหมดตัว มีหนี้สินทำอะไรก็ไม่รุ่งเลย อย่าพึ่งหมดหวัง!! เพราะสายมูแบบเราจะพาไปมูแบบจัดเต็มต้อนรับปีใหม่ ที่ไหนเด็ด ที่ไหนดัง ที่ไหนที่ว่าดี ไปกันเลยค่ะ ขอพรเสริมสิริมงคล ขององค์เทพต่างๆช่วยนำทางให้ลูกประสบความสำเร็จดั่งใจหวังด้วยเทอญ…..

1.ศาลหลักเมือง กรุงเทพฯ

ศาลหลักเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมานานแสนนาน สร้างขึ้นพร้อมการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีตามธรรมเนียมและความเชื่อแบบพราหมณ์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนนิยมไปสักการะขอพร

ขอพร : ชีวิตรุ่งเรือง เรื่องการงาน เลื่อนตำแหน่ง ประสบความสำเร็จ มองหางานใหม่
เวลา : เปิด 6.30-18.00 น.
พิกัด : ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร 2 ถนน หลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

2.ท้าวมหาพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์

พระพรหม คือ เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นผู้สร้างสรรค์สิ่งทั้งปวงให้เกิดขึ้นในโลก ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ เป็นศาลศาสนาฮินดูตั้งอยู่หน้า โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนนิยมไปมากที่สุด เคล็ดลับการกราบไหว้ควรไหว้พระพรหมให้ครบทั้ง 4 พระพักตร์  เริ่มจากพระพักต์กลาง เดินวนไปตามเข็มนาฬิกา จนกลับมาที่เดิม

ขอพร : หน้าที่ 1 การศึกษาต่อ การเรียน การงาน การสอบแข่งขัน และอำนาจบารมี (อยู่บริเวณทางเข้าหน้าสุด)
หน้าที่ 2 ขอพรเรื่อง : เรื่องที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สิน
หน้าที่ 3 ขอพรเรื่อง : สุขภาพตนเองและครอบครัว โรคภัยไข้เจ็บ และการเดินทางปลอดภัย
หน้าที่ 4 ขอพรเรื่อง : เงินทอง โชคลาภ การเสี่ยงโชค และลาภลอย รวมถึงการขอพรให้บุตรหลานด้วย
เวลา : เปิด 6.00 – 22.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/uBqxyGppTnBuHRJ4A

3.วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม)

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์รวบรวมองค์เทพ ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรความรัก อยากให้ความรักของเราราบรื่น แนะนำไปจุดรวมพลคนอยากมีรัก ไหว้สักการะ พระแม่อุมาเทวี และยังมีองค์พระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จด้วย

ขอพร : โดดเด่นมากในเรื่องขอพรให้ความรักสมหวัง รวมถึงสามารถขอพรในเรื่องของการงาน การเงิน และความสำเร็จได้อีกด้วย
เวลา : เปิด 6.00-20.00 น.
พิกัด :  นั่งรถไฟฟ้า BTS มาเปลี่ยนสายเป็นสายบางหว้าที่สยาม แล้วลงที่สถานีสุรศักดิ์ เดินเข้าซอยมาอีกนิดก็จะถึงทันที 

4.ศาลพระสทาศิวะ ลาน Central World

พระสทาศิวะ คือพระปรเมศวร พระเป็นเจ้า ตามคติลัทธิไศวสิทธานตะ สายมันตรมรรค เทพเจ้าสูงสุดสามองค์ตามความเชื่อในศาสนาฮินดู มีความเชื่อกันว่าพระสทาศิวะทรงมีอำนาจทุกอย่าง และยังถือว่าเป็นเจ้าแห่งผีหรือปีศาจอีกด้วย สำหรับพระสทาศิวะนั้น เป็นพระศิวะในรูปสูงสุด

ข้อควรรู้ : ศาลแห่งนี้จึงมีข้อเท็จจริงที่ผิดไปหลายประการ แต่เดิม ศาลพระสทาศิวะ ได้มีความเข้าใจผิดว่าเป็น ศาลพระตรีมูรติ ทำให้มีคนโสด มาขอพรความรักที่นี่มากมาย จนมีชื่อเสียงโด่งดังนั่นเอง แต่หากที่จริงแล้ว ตามความเชื่อนั้น พระสทาศิวะ จะประทานพรในทุกสิ่งได้สมตามความปรารถนา ไม่ได้เฉพาะเรื่องความรักเท่านั้น

ขอพร : การงาน การเงิน โชคลาภ ความรัก
เวลา : เปิด 24 ชม.
พิกัด : https://goo.gl/maps/wHeCXCHsPQnxF7gm7

5.ศาลเจ้าพ่อเสือ

อีกหนึ่งศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงย่านเสาชิงช้า กับ “ศาลเจ้าพ่อเสือ” เป็นศาลเจ้าจีนสายลัทธิเต๋าที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย การสร้างศาลพ่อเจ้าเสือได้มีการนำเอา กระดูกเสือ บรรจุในแท่น ปั้นรูปประดิษฐานบนแท่น และอัญเชิญดวงวิญญาณเสือ ขอให้ปกปักรักษาประชาชนให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ศาลเจ้าพ่อเสือ จึงเป็นศาสนสถานที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของคนไทยและจีน

ขอพร : หากใครที่กำลังประสบปัญหาทางธุรกิจ อยากจะขอพรการงานให้ประสบความสำเร็จ เสริมอำนาจบารมี ให้ร่ำรวยเงินทอง การค้าขาย แนะนำที่นี้เลยค่ะ ที่สำคัญที่ศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้ ยังมีการแก้ชง โดยใครที่เกิดปีชง ก็จะต้องมาทำ พิธีปัดตัวสะเดาะเคราะห์ แก้ชงสริมสิริมงคลกันได้อีกด้วยเวลา : เปิด 6.00 – 17.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/89q5qybnBFxFjuFk6

6.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

“วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร” วัดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่พระปรางค์ตั้งเด่นเป็นสง่าและมีความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ มีคติความเชื่อต่อกันมาว่า ‘ไหว้พระวัดอรุณ ชีวิตโรจน์รุ่ง ทุกวันคืน’ หรือหมายความว่าหากได้มาไหว้พระวัดอรุณฯ ได้มาไหว้พระวัดอรุณฯ ชีวิตจะรุ่งเรือง จะทำการอะไรก็ราบรื่นตลอดไปนั่นเอง

ขอพร : ขอพรชีวิตรุ่งเรือง ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เหมาะแก่การขอพรต้อนรับปีใหม่นะคะ
เวลา : เปิด 8.00 – 18.00 น.
พิกัด : ttps://goo.gl/maps/MBSnUpxSGaH2

7.ศาลพระพิฆเนศ หน้าห้างอิเซตัน (เซ็นทรัลเวิลด์)

พระพิฆเนศเป็นเทพในศาสนาฮินดู มีความเชื่อที่ว่าทรงเป็นเทพแห่งความสำเร็จ ทรงภูมิปัญญายิ่งใหญ่ ผู้ขจัดอุปสรรคและอำนวยความสำเร็จในทุกสิ่ง

ขอพร : การงาน การเรียน ยิ่งหากใครเรียนทางด้านศิลปะ ดนตรี แนะนำให้ขอพรก้บพระพิฆเนศค่ะเวลา : เปิด 24 ชม.
พิกัด : https://goo.gl/maps/88WHPNMX7WuwNbvy7

กลิ่นเครื่องเทศต้นตำรับอินเดีย หอมด้วยเนยกี สัมผัสรสชาติที่นุ่มลิ้น หากใครได้ชิมต้องเป็นอันหลงใหล ….. ขนมลาดู ขนมโมทกะ ขนมลาดูเงินล้านสูตรต้นตำรับอินเดียแท้ สูตรลับเฉพาะของทางร้านเรา หากได้ชิมแล้วรับรองต้องติดใจ ขนมเทพที่คนก็ทานได้ ทานแล้วรู้สึกเหมือนมีองค์พระพิฆเนศติดตัว …

ความเป็นมาขนมลาดู ขนมโมทกะ

ขนมลาดู ขนมโมทกะ เป็นขนมที่องค์พระพิฆเนศทรงโปรด จะสังเกตได้ว่า ที่พระหัตถ์ขององค์พระพิฆเนศจะทรงถือขนมลาดู นับว่าเป็นเทพองค์เดียวที่รูปเคารพถือขนมลาดู แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ขนมลาดู ขนมโมทกะยังเป็นขนมมื้อพิเศษที่พระแม่อุมาเทวี (แม่ของพระพิฆเนศ) ทรงทำให้พระพิฆเนศทานอีกด้วย

• ขนมลาดู มีลักษณะเป็นทรงกลม ทำมาจากแป้งถั่ว หรือมะพร้าว ผสมกับเนยกี เนยอินเดีย
• ขนมโมทกะ มีลักษณะเป็นรูปคล้ายหยดน้ำ ยอดปลายจะแหลม

การทำขนมขนมลาดู ขนมโมทกะ จุดประสงค์คือ ทำเพื่อถวายองค์เทพบนสวรรค์ โดยเฉพาะองค์พระพิฆเนศ ในช่วงเทศการคเณศจักตุรถี จะต้องมีการถวายขนมลาดู ในการถวายขนมลาดู ขนมโมทกะให้กับพระพิฆเนศนั้น มีคำกล่าวอีกว่า “ผู้ใดที่นำขนมมาเป็นเครื่องถวายบูชาแกเรา ความปารถนาใดๆก็จะได้รับความสำเร็จ ผู้ใดศรัทธา บูชาเราด้วยความรักเป็นหน้าที่เราที่จะดูแลพวกเขาเหล่านั้น”    

ทำไมต้องถวายขนมลาดูเงินล้าน

ขนมลาดูเงินล้านใส่ใจทุกรายละเอียดในขั้นตอนการผลิตตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบจนถึงขั้นตอนการบรรจุลงกล่อง ปรับสูตรให้ผู้ที่ศรัทธาองค์พ่อพระพิฆเนศได้ลิ้มรสความอร่อยและกลายเป็นขนมสุดโปรดปราณ ด้วยสูตรขนมลาดูจากอินเดีย บวกความปราณีตและความตั้งใจ ก็ได้ออกมาเป็น ขนมลาดูที่มีกลิ่นหอมถั่ว หอมเนยและหอมเครื่องเทศอันเป็นเอกลักษณ์ที่องค์พระพิฆเนศโปรด

รีวิวขนมลาดูเงินล้าน >> ลาดูเงินล้าน ร้านขนมลาดู โมทกะพรีเมียมแบบออนไลน์ สำหรับสายมู

สนใจสั่งซื้อขนมลาดูเงินล้านสั่งได้ที่

รีวิวความศรัทธาขนมลาดูเงินล้าน

 

ฤกษ์งามยามดีลาดูเงินล้านขอแวะพาทุกท่านไปชมความงดงามของ องค์พระพิฆเนศที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยตั้งอยู่ที่ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเขื่อขันธ์ หรือศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรปราการ  อำเภอพระประแดง ซึ่งหากท่านใดเป็นสายมู ศรัทธาองค์พ่อพระพิฆเนศ ขอย้ำต้องไม่พลาด!! ที่จะไปสักการะบูชา ขอพรเสริมสิริมงคลสักครั้ง

พระพิฆเนศองค์แรกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย

ประวัติความเป็นมาของพระพิฆเนศองค์แรก เริ่มต้นปีพ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงโปรดให้ก่อตั้งเมืองนครเขื่อนขันธ์ขึ้นบริเวณริมแม่น้ำและทรงโปรดแต่งตั้งให้บุตรชายของเจ้าพระยามหาโยธานามว่า “เจ่ง” เป็นผู้รักษาการณ์เจ้าเมืองนครเขื่อนขันธ์ แล้วก็ทรงโปรดฯให้สร้างศาลหลักเมืองขึ้นมาเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจให้ชาวบ้าน หลังจากที่สร้างศาลหลักเมืองเสร็จแล้วได้มีการอัญเชิญองค์พระพิฆเนศมาประดิษฐานบนยอดเสาหลักเมือง ลักษณะขององค์พระพิฆเนศมีความเรียบง่ายแต่สวยงาม สำหรับองค์พระพิฆเนศองค์นี้มีการเล่าขานกันมาว่าเป็นองค์พระพิฆเนศของชาวขอม

หลังจากมีการตั้งศาลหลักเมืองและอัญเชิญองค์พระพิฆเนศมาประดิษฐานแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นคือ บ้านเมืองก็มีความเจริญรุ่งเรือง มีชาวจีนเดินทางมาค้าขายจนตั้งเป็นตลาดและสร้างศาลหลักเมืองใหม่ อัญเชิญเทวรูปของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เช่น องค์พระแม่ลักษมี องค์พระแม่อุมาเทวี องค์พระศิว  เทพเจ้าหนูพาหนะขององค์พระพิฆเนศแล้วให้ชื่อว่า “ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองนครเขื่อนขันธ์” จนถึงปัจจุบัน

สักการะ ขอพร เสริมสิริมงคล องค์พระพิฆเนศศาลหลักเมืองสมุทรปราการ

พระพิฆเนศองค์แรกของประเทศไทย มีลักษณะเป็นพระพิฆเนศศิลา เนื่องจากมีสี่พระกร พระกรขวาบนถือตรีศูล พระกรซ้ายบนถือปาศะ พระกรขวาล่างถืองา และพระกรซ้ายล่างถือถ้วยขนม ทรงประทับนั่งบนฐานบัวหงาย ไม่มีเครื่องประดับอาภรณ์สวมใส แต่ความสวยงามสามารถสะกดจิต สะกดใจผู้ที่เข้ามาสักการะได้อย่างไม่คลาดสายตา เรียกได้ว่า เป็นความงดงามที่เรียบง่าย พระพิฆเนศองค์นี้ตั้งอยู่บนเสาหลักเมือง เมื่อเดินเข้ามาแล้วจะเห็นองค์พระพิฆเนศเด่นสง่า และเราแทบจะมองไม่เห็นศาลหลักเมืองเลยค่ะ

เราสามารถบูชาดอกไม้ ของถวายองค์พ่ออพระพิฆเนศภายในศาลหลักเมืองได้เลยนะคะ หรือจะนำขนมลาดู โมทกะ ขนมที่องค์พ่อโปรดถือไปฝากท่านด้วยก็จะยิ่งดีเลยค่ะ เมื่อเราได้ของที่จะนำมาถวายองค์พระพิฆเนศแล้วเราก็เดินมาไหว้องค์พ่อพระพิเนสได้เลยนะคะ อย่าลืมขอพร เสริมสิริมงคลกันนะคะ หลังจากไว้องค์พ่อเสร็จแล้วสามารถเดินชมความงดงาม สักการะ ขอพรเหล่าองค์เทพองค์อื่นได้เช่นกันนะคะ

การเดินทางมาศาลหลักเมืองสมุทรปราการ

เดินทางด้วยรถเมล์สาย 6, 82, 138 (สาย 138 คันที่เขียนว่าเข้าท่าน้ำพระประแดง) มาลงป้ายตลาดพระประแดง จากนั้นเดินตรงต่อไปอีกหน่อย จะเห็นซุ้มประตูทางเข้าศาลหลักเมืองทางขวามือ (ฝั่งเดียวกับตลาด)

เดินทางด้วยรถยนต์ปักมุดได้เลยค่ะ

กลับมาอีกครั้งกับพิธีบวงสรวงพระแม่ลักษมีอันยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ ที่หนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียว จัดขึ้นที่ศาลพระแม่ลักษมี เกษรวิลเลจ โดยปีนี้ทางเกษรวิลเลจได้เตรียมจัดงานบวงสรวงพระแม่ลักษมีในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งตรงกับวันพุธ ด้วยชื่อเสียงอันเลื่องลือในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ เหล่าสายมูแบบเราไม่ควรพลาด!! เพราะเชื่อกันว่า ผู้ที่มาขอพรเรื่องความรักจะได้พบกับความรักที่ดีตรงใจ ส่วนใครที่มาขอพรเรื่องการงานจะมีการเริ่มต้นเกี่ยวกับการทำงานที่ดี

ทางเพจเฟซบุ๊ก Gaysorn Village ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ในปีนี้เกษรวิลเลจ ได้จัดพิธีบวงสรวง “พระแม่ลักษมี” ประจำปี 2565 ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งถือเป็นฤกษ์งามยามดีในการสักการะบูชาพระแม่ลักษมี

ในพิธีการบวงสรวงพระแม่ลักษมี จะพิธีการเปลี่ยนเครื่องทรงพระแม่ลักษมีด้วย ซึ่งในปีนี้สีมงคลสำหรับพระแม่ลักษมี คือ สีเขียวสดและสีแดง

• สีแดง หมายถึง ธาตุไฟ ช่วยให้เกิดความเจริญรุงเรือง อุปสรรคคลี่คลาย
• สีเขียว หมายถึง ธาตุไม้ ช่วยให้เกิดความอุดมสมบูรณ์

เมื่อทั้งสองสี สีเขียวธาตุไม้และสีแดงธาตุไฟมาอยู่ด้วยกัน จะช่วยส่งเสริมกันช่วยปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดี ประทานความอุดมสมบูรณ์มาให้

ประวัติพระแม่ลักษมี ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ

“พระแม่ลักษมี” หนึ่งในเทพศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู มีชื่อเสียงในเรื่องการประทานพร องค์นี้ประดิษฐานอยู่ที่ ดาดฟ้าชั้น 4 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ ถูกสร้างขึ้นตามนิมิตรของคุณสุรภีร์ โรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริษัทในเครือเกษรกรุ๊ป ซึ่งเกิดนิมิตเห็นพระองค์พระแม่ลักษมีเสด็จมาประทานพร เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2523 จึงได้สร้างพระแม่ลักษมีตามนิมิต จากนั้นจึงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้บนยอดอาคารศูนย์การค้าเกษรในปี พ.ศ. 2539 เพื่อเป็นสิริมงคล และเปิดให้ผู้คนที่ศรัทธาได้เข้าสักการะบูชา ในแต่ละวันจะมีผู้คนหลากหลายอาชีพตั้งแต่นักเรียน-นักศึกษา, นักท่องเที่ยว, นักธุรกิจ และศิลปินชื่อดังขึ้นมาสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล

เตรียมของไหว้ บทสวดบูชาพระแม่ลักษมี

พระแม่ลักษมีทรงโปรดน้ำอ้อย หรือผลไม้รสอ่อน เช่น มะพร้าว ดอกบัวสีชมพู ของสวยงามและกลิ่นหอม เช่น กำยาน เทียนหอม รวมไปถึงขนมอินเดีย เช่น ขนมลาดู ขนมโมทกะ

คาถาบูชาพระแม่ลักษมี

เริ่มต้นด้วยการตั้งนะโม 3 จบและต่อด้วยบทสวดไหว้องค์พ่อพระพิฆเนศ

“โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา” 3 จบ แล้วจึงเริ่มสวดบูชาพระแม่ลักษมี

โอม ชยะ ศรี ลักษมี มาตา (3 จบ)

โอม ศรี ลักษะมิไย นะมะห์ (3 จบ)

โอม มหาลักษะ มิไย นะโม นะมะห์

โอม วิษณุ ปรียาไย นะโม นะมะห์

โอม ธะนะ ประทาไย นะโม นะมะห์

โอม วิศวา จะนันไย นะโม นะมะห์

ยา เทวี สะระวะ ภูเตชุลักษมี รูเปนะ สัม สะถิตานะมัส ตัสไย

นะมัส ตัสไย นะมัส ตัสไย นะโม นะมะห์

บทสวดบูชาขอชัยชนะแด่พระแม่ลักษมี

โอม ไชยะ ปัทมา วิศาลักษิ ไชยะ ตวัม ศรี ปติ ปริเย

ไชยะ มาตา มหาลักษมีสะมะ สะระณะ วันณะวะ ธาระนี ฯ (1 จบ)

สำหรับผู้ศรัทธาที่จะเดินทางมาเข้าร่วมพิธีบวงสรวงพระแม่ลักษมีในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 สามารถมาได้ตั้งแต่เวลา 11.00 – 19.00 น. บริเวณดาดฟ้าชั้น 4 Gaysorn Centre, Gaysorn Village

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ GaysornVillage

ศาลพระพิฆเนศ สี่แยกห้วยขวาง อีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่สายมูและศรัทธาองค์พ่อพระพิฆเนศพลาดไม่ได้ ต้องไปสักการะสักครั้งในชีวิต ด้วยชื่อเสียงด้านการประทานพร ขอพรอะไรก็สำเร็จดั่งใจ ทำให้ถูกกล่าวขานและยกย่องว่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ต้นๆของเมืองไทย

เทวาลัยองค์พระพิฆเนศประทานพร

พระพิฆเนศปางประทานพร เป็นพระพิฆเนศปางศักดิ์สิทธิ์และประทานพรเร็วที่สุด สามารถขอพรได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน การเรียน สุขภาพ ความรัก (แอดมินแนะนำให้ขอทีละข้อนะคะ) การขอพรไม่อยากเลยค่ะ มาถึงที่นี้แล้วอันดับแรกเราต้องไปบูชาดอกไม้ ธูปเทียน ค่าบูชา 30 บาท นอกจากนี้ยังมีสไบและพี่หนูมุสิกะให้บูชาถวายองค์พระพิฆเนศด้วย เมื่อบูชามาเรียบร้อยแล้ว จุดธูปท่องบทสวด ตั้งจิตอธิษฐานให้แน่วแน่ แล้วขอพรตามที่เราต้องการได้เลยค่ะ

การขอพรควรขอในเรื่องที่เป็นไปได้จริง เป็นพรที่เราขอแล้วมีความสบายใจ มีกำลังใจและตั้งใจลงมือทำเพื่อให้พรที่ขอนั้นสำเร็จ หากพรสำเร็จแล้วอย่าลืมแวะซื้อขนมลาดูโมทกะ ขนมที่องค์พระพิฆเนศโปรดมาฝากองค์พ่อกันด้วยนะคะ

รีวิวความศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธา องค์พระพิฆเนศ ห้วยขวาง

คุณต้องลูกค้าลาดูเงินล้าน มีโอกาสได้ไปไหว้ขอพรองค์พระพิฆเนศ สี่แยกห้วยขวาง และได้รับพรตามที่ขอไว้ เลยจัดขนมลาดู โมทกะชุดใหญ่ไปขอบคุณองค์พระพิฆเนศ

คุณปอลูกค้าลาดูเงินล้าน ก็ได้รับพรสำเร็จตามที่ขอไว้ จึงจัดชุดข้าวสาร 9 สี ธัญพืชมงคล เทียนหอม และขนมลาดู โมทกะ ไปขอบคุณองค์พ่อพระพิฆเนศ

พิกัดการเดินทาง ศาลพระพิฆเนศ สี่แยกห้วยขวาง

ศาลพระพิฆเนศ ห้วยขวาง ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกห้วยขวาง เดินทางไม่ยากเลยค่ะ นั่ง MRT ลงสถานีห้วยขวาง ออกทางประตู 4 ขึ้นมาปุ๊ป เจอปั๊ป จะมองเห็นองค์พระพิฆเนศประทานพรยืนเด่นสง่า นอกจากนี้แล้วภายในยังมีองค์พระพิฆเนศปางอื่นๆ พระราหู พระตีมูรติ พระศิวะและพระแม่อุมาเทวีให้สักการะอีกด้วยค่ะ

สามารถมาสักการะได้ตลอด 24 ชม. เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งเลย หากมีโอกาสอย่าลืมแวะมาสักการะ ขอพรเสริมสิริมงคลกันนะคะ มาที่นี้ได้มูครบจบที่เดียวเลยไม่ต้องเดินทางไปไหนไกลเลยค่ะ ขอองค์พ่อพระพิฆเนศประทานพรนะคะ โอม ศานติ ศานติ

คลิกอ่านบทความอื่นๆ >>> 3 เคล็ด (ไม่)ลับ ขอพรพระพิฆเนศยังไงให้ปัง